เรื่องลับๆของmp3...ตอนที่ 2 เครื่องเล่น mp3 เปลี่ยนโลก

หลังจากที่ตอนที่ 1 เราทำความรู้จักกับ mp3 กันไปแล้ว แต่ใครยังจำไม่ได้ ไม่ได้
เราจะทบทวนกันแบบรวดเร็วกันอีกครั้งนะครับ

Time Line ของการพัฒนา MP3 แบบย่อ

ค.ศ.1989 MP3 มีการคิดค้นและทำการจดสิทธิบัตรในประเทศเยอรมนี

ค.ศ.1996 สิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาซึ่งอนุญาตให้นักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน จดสิทธิบัตร MP3 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ค.ศ.1997 โปรแกรมเล่นไฟล์ MP3 ชื่อ “AMP” ซึ่งเป็นโปรแกรมแรกที่ถูกคิดค้น

ค.ศ.1998 สองนักศึกษาเยอรมันนำเครื่องมือการเล่น AMP มาใช้กับ windowsและ สร้าง โปรแกรมเล่น MP3 Winamp, ซอฟแวร์การเล่น MP3 เป็นครั้งแรกสำหรับ Windows

หลังจากที่เราทบทวนประวัติ mp3 แล้ว เรามาดูแล้วว่าประวัติของ mp3player ซึ่งเป็นอุปกรณ์ฟังเพลงขนาดพกพาได้มีวิวัฒนาการ มากกว่า 20 ปี 

TimeLine – เครื่องเล่น mp3 (mp3player)

ค.ศ.1998 Eiger Labs ได้ออกจำหน่าย MP3player รุ่นแรก

F10 MPMan เครื่องเล่นmp3 เครื่องแรก

           F10 MPMan กับ 32MB ของหน่วยความจำ ซึงมีความจุได้แค่เพียง 8 เพลงเท่านั้น ยังไม่ครบอัลบั้มเลยเนี่ย ความละเอียดหรือคุณภาพไฟล์ mp3 จะอยู่ที่ 128kb/s. (ปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่) ขนาดของเครื่อง 91x70x165.5 มิลลิเมตร ถ้าเทียบกับปัจจุบันมีขนาดใหญ่มาก พกพาค่อนค้างจะลำบากนิดนึง โดยการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จะใช้ Port parallel หรือ port ขนาน ของ Printer รุ่นเก่านั่นเอง  เครื่อง mp3player ตัวนี้จะมีหน้าจอ LCD เล็กๆไว้บอกชื่อเพลงที่เราฟังอีกด้วย 

Diamond Rio PMP300

        ในช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่ F10 MPMan mp3player เครื่องแรกออกสู่ตลาด บริษัท Diamond Rio ได้ออก mp3player รุ่น PMP300 มาสู่ตลาดมีความจุ 32 MB เท่ากัน แต่มีหน้าจอที่ใหญ่กว่าและสามารถเพิ่มความจุของหน่วยความจำได้ ทำให้ PMP300 ตัวนนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในท้องตลาด

ค.ศ.1999 The Sensory Science ได้คิดค้นเครื่องเล่นmp3 รุ่น RaveMP 2100 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เครื่อวเล่นmp3 มีความจุ 64 MB และมีความสามารถในการบันทึกเสียงและฟังวิทยุ FM ได้อีกด้วย ถือว่าตัวนนี้เป็นตัวแบบของเครื่องเล่นmp3 ในปัจจุบัน

 RaveMP 2100

และในปีเดียวมีอีกสองบริษัทที่ผลิตเครื่องเล่นmp3 ออกมาแข่งขัน

Creative Labs' ได้สร้างเครื่องเล่น mp3 รุ่น Nomad ตัวแรกของบริษัทออกสู่ตลาดมากับ docking station แทนการต่อสาย

 Creative NOMAD

Remote Solutions' Personal Jukebox ได้ออกรุ่น PJB-100 ซึงเป็นนวัตกรรมใหม่ในขณะนั้นโดยนำ Hard Disk มาใส่แทน flash memory ทำให้เพิ่มความจุได้มากขึ้นถึง 4.8 GB ซึ่งในขณะถือว่าเป็นความจุที่เยอะมาก เครื่องเล่นmp3 เป็นต้นแบบ ของ ipod และพื้นฐานของเครื่องเล่นในรุ่นถัดมา

ค.ศ. 2000 บริษัท I2Go ออกเครื่องเล่นmp3 รุ่น eGO ความจุ 2 GB โดยใช้เทคโนโลยี micro-drive ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า flash memory แต่ราคาสูงมาก 

     ในปีเดียวกัน บริษัท Creative Labs รุ่น Nomad Jukebox ความจุ 6 GB แต่ขนาดของเครื่องเล่น ยังมีขนาดใหญ่มาก คุณภาพเสียงดีที่สุดในตลาดเครื่องเล่นmp3

ค.ศ. 2001 ไนกี้ ได้ออกรุ่น PSA Play 120 เป็นเครื่องเล่นmp3 ตัวแรกที่เจาะกลุ่มคนที่ออกกำลังกาย โดยมีปลอกแขนและมีการเคลือบป้องกันน้ำเพื่อป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกาย

 Nike PSA Play 120

และ แอปเปิ้ล ได้เปิดตัว Ipod เครื่องเล่น ขนาดความจุ 5 GB โดยใชการเชื่อมต่อผ่านเครื่อง แมคอินทอช เท่านั้น และจัดการเพลงผ่านโปรแกรม iTune เท่านั้น

 Apple iPod Gen1

ค.ศ.2002 แอปเปิ้ล ได้ออก ipod รุ่นที่สองออกมาซึ่งมีความจุ 20 GB เพิ่มขึดจำกัดโดยเพิ่มการใช้งานได้ windows โดยจัดการผ่านโปรแกรม iTunes และมีการเปิดตัวร้านค้าเพลงออนไลน์ iTune ซึงเป็นผู้บริการดาวน์โหลดเพลงทีใหญ่ที่สุด

ในปีเดียวกัน บริษัท  Archos ได้ออกเครื่องเล่น Jukebox Multimedia สามารถเพิ่มรูป ดูรูปภาพและวีดีโอได้

Archos Jukebox Multimedia

       ในปีนี้บรรดาบริษัทต่างๆ ได้นำเครื่องเล่นmp3 มาใส่ในความสามารถของโทรศัพท์ ไม่วาจะเป็น ยี่ห้อ LG, Samsung, Motorola, Nokia and SonyEricsson วางจำหน่ายในประเทศสหัฐอเมริกาเป็นที่แรก

ค.ศ.2006 โทรศัพท์ที่มีเครื่องเล่นmp3 (music phone) ในตัว ขายดีกว่าเครื่องเล่นmp3 

ค.ศ.2007 แอปเปิ้ลเปิดตัว iPhone และ iPod Touch ซึ่งสามารถเล่นmp3 และที่แตกต่างคือมีหน้าจอสัมผัส และสามารถเชื่อมต่อ internet ได้ด้วยอีกทั้งสามารถลง software เพื่อการใช้งานอื่นๆได้

Apple iPod Gen5

ค.ศ.2007-ปัจจุบัน ทั้ง โทรศัพท์ และ เครื่องเล่นmp3 มีการพัฒนาไปอย่างมากไม่ว่าจะเป็น ขนาดที่เล็กลง ความสามารถในการเล่นเพลง ความจุที่เพียงพอในการจัดเก็บเพลงได้มากขึ้นเป็นลำดับ และความสามารถต่างๆนอกเหนือจากการเล่น mp3 เช่น การเล่นวีดีโอ เปิดดูรูปถ่าย เป็นต้น อยู่ที่เราเลือกไปใช้งานในลักษณะใด อีกทั้งราคามีหลายระดับตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหลายหมื่นบาท

แปลและเรียบเรียงโดย www.thaimp3player.com

ต้นฉบับ http://www.life123.com/technology/home-electronics/mp3-player/history-of-mp3-players.shtml

รูปภาพ http://anythingbutipod.com/2008/03/10th-anniversay-of-the-mp3-player/ และอินเตอร์เน็ต